Advertiser

อธิบายข้อแตกต่างระหว่างบัญชี Pro Raw และ Zero ของ Exness แบบง่ายๆ

สำหรับมือใหม่หรือมือเก่าบางท่านที่ผ่านการดูกราฟForexกันมาบ้างอาจจะสงสัยในประเภทของบัญชีแต่ละบัญชีที่โบรกมีให้เลือก ซึ่งใน3บัญชีนี้เราขอแนะนำคนที่มีทุนในการเล่นให้เลือกกันเลยทีเดียวค่ะ เพราะถึงแม้จะต้องฝากเงินขั้นต่ำมากกว่าบัญชีสแตนดาร์ดก็จริง แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกับความคุ้มค่าละก็ 3บัญชีนี้คุ้มกว่ากันเยอะเลยค่ะ เดี๋ยวเราจะพูดถึงบัญชีแต่ละประเภทให้ฟังกันแบบคร่าวๆนะคะ


สารภาพว่าแอบไปทดลองเปิดบัญชีกับที่อื่นมาค่ะ แต่สุดท้ายก็ตายรังกลับมาที่ Exness อยู่ดี วันนี้เราเลยอยากจะมาพูดเรื่องบัญชีแต่ละประเภทของ Exness กันนิดนึงค่ะ จริงอยู่ที่เวลาเราเปิดบัญชีใหม่ๆ คนส่วนใหญ่ก็จะเลือกบัญชีสแตนดาร์ดเพราะสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยเงินจำนวนเพียงเล็กน้อย คือฝากเงินแค่1$ก็สามารถถอนได้แล้ว แต่จริงๆถ้าเราเอาจริงเอาจังทางด้านการเทรด และพอจะมีทุนอยู่บ้าง เราอยากให้ทุกคนเลือกที่จะฝากเงินแลเวเทรดด้วยลอตน้อยๆดีกว่า เพราะนอกจากจะสามารถควบคุมการสวิงของกราฟได้แล้ว เรายังเสียค่าสเปรดได้ถูกลงกว่าเดิมอีก เดี๋ยวเราจะมาพูดถึง 3 บัญชีที่ว่านี้กันนะคะ

1.บัญชี Pro เป็นบัญชีที่ค่าสเปรดจะแคบลงกว่าแบบบัญชีสแตนดาร์ดค่ะ เรียกได้ว่าคุ้มกว่าstandardแน่นอนถ้าใครสายเทรดถือยาวและไม่อยากเสียค่าคอมมิชชั่น

2.บัญชี Zero สำหรับบัญชีตัวนี้ค่าสเปรดแทบจะเป็น0เลยค่ะ เหมาะกับสาย Scalping ที่แท้ทรูเพราะเวลาเรากดออเดอร์เราจะได้ที่ราคาตลาดเลย และไม่ต้องมารอว่าราคาจะเลยจุดสเปรดไปหรือยังเพราะบัญชีนี้ไม่คิดสเปรดค่ะ

หมายเหตุ : ขึ้นอยู่กับคู่เงินหรือตัวที่เราจะเทรดนะคะ แต่ละตัวค่าคอมมิชชั่นไม่เท่ากัน และบางตัวอาจมีสเปรดเล็กน้อย สามารถเช็คคู่เทรดที่เราเล่นบ่อยๆได้ที่นี่ ลองดูว่าคู่เงินที่เราเล่นนั้นคุ้มมั้ย

3.บัญชี Raw ตัวนี้จะเหมือนกับอยู่กึ่งกลางระหว่าง Pro กับ zero ค่ะ คือสเปรดจะแคบกว่า Pro ลงไปอีก แต่แลกกับมีค่าคอมมิชชั่นเสริมดข้ามาเล็กน้อย เรียกได้ว่าเสียทั้งสเปรดและค่าคอมค่ะ เหมือจจะไม่ค่อยคุ้ม แต่เดี๋ยวเราจะลองเทียบ Raw กับ Zero ให้ดูนะคะ 

เช่นถ้าเราเทรดทอง

Zero จะเสียค่าคอมอย่างเดียวเลยคือ 8$ตอนเปิดออเดอร์ และอีก8$ตอนปิดออเดอร์ โดยคิดเป็นต่อ1lot เช่นถ้าเราBuyทอง1lot ตอนเราเปิดออเดอร์ Buy เราก็จะเสียค่าคอม 8$ และเมื่อเราจะปิดออเดอร์ Buy นั้นๆ เราก็จะเสียค่าคอมอีก 8$ ค่ะ เท่ากับออเดอร์นั้นเราจะเสียทั้งหมด 16$/1lot กันเลย 

ในขณะที่บัญชี Raw นั้นจะรับประกันเลยว่าค่าคอมไม่มีทางเกิน 3.5$ต่อ1lot/ออเดอร์แน่นอน เพราะงั้นถ้าเราเทรดทองโดยใช้บัญชี Raw สมมติเราBuyทอง1lot เราจะเสียค่าคอมตอนBuy ที่ 3.5$ และเสียค่าคอมตอนปิดอีก 3.5$ รวมกันเป็น 7$(ทั้งเปิดและปิดออเดอร์) จะเห็นว่าค่าคอมถูกกว่าzero ครึ่งนึงเลย แต่แลกกับ ณ ตอนนั้นสเปรดอาจจะกว้าง แต่ไม่กว้างเท่า standard แน่นอน

ละถ้าสมมติเราเทรดแค่ 0.01lotละ ค่าคอมที่ว่าจาก8$ จาก 3.5$ ก็ลองเทียบจุดทศนิยมกันดู ก็จะเหลือแค่ 0.08$ กับ 0.035$ โอ้โห ดูจิ๊บจ๊อยไปเลย

และถ้าให้เราแนะนำจริงๆระหว่างบัญชี Standard Raw และ Zero ส่วนตัวเราใช้แบบ Raw ค่ะ

เห็นข้อดีของทั้ง 3 บัญชีกันแล้วใช่มั้ยละคะ มันดีขนาดนี้แต่ทำไมคนถึงไม่ค่อยใช้กันละ 

นั่นก็เพราะว่า...

1.คนส่วนใหญ่ไม่อยากฝากเงินทีละมากๆ
2.คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามีบัญชีแบบนี้
3.คนส่วนใหญ่เน้นง่ายและเร็ว ขี้เกียจอ่านเพิ่มเติม ทำให้เสียโอกาส

ซึ่งจริงๆแล้วหากตั้งใจเทรดจริงๆแต่ยังมีความกลัว แนะนำให้ลองเทรดแบบบัญชีเดโมก่อน จากนั้นแนะนำเลยว่าฝากเงินซัก 500$-1000$ ค่ะ ที่แนะนำจำนวนเงินเท่านี้เพราะถ้าเปิดบัญชีครั้งแรกแล้วฝากเงิน500$ขึ้นไป และต้องเหลือมาร์จิ้นอย่างน้อย 100$ ก็จะสามารถขอใช้ VPS ได้ฟรี แต่ทั้งนี้เงื่อนไขคือต้องมีการเทรดภายใน14วัน(เท่ากับว่าเดือนนึงต้องเทรดอย่างน้อย 2-3ครั้ง เพื่อรักษาความต่อเนื่อง ซึ่งไม่เยอะเลย) ถ้าไม่มีการเทรดติดต่อกันเกิน 14 วันจะโดนตัดสิทธิ์ vps ค่ะ(แต่สามารถขอใช้ใหม่ได้)

เห็นมั้ยคะว่าบัญชีเหล่านี้ถ้าเรามาศึกษารายละเอียดจริงๆมันคุ้มกว่ากันมากๆค่ะ และที่ยกตัวอย่างแค่ของ Exness ที่เดียวก็เพราะ Exness เป็นที่ๆสเปรดถูก รวดเร็วและเหมาะกับคนไทยอย่างเราสุดๆแล้วค่ะ ตอบแชทไว24ชม.และตอบทุกวันจริงๆ ดูแลอย่างดี ถอนเงินไวมาก เลยอยากให้ลองใช้กันดูค่ะ ใครมีคำถามอะไรโพสต์ถามได้เลยนะคะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีเปิดบัญชีforex แบบละเอียดทุกขั้นตอน

(ขอเล่า)ประสบการณ์ในการเลือกใช้โบรกเกอร์ที่ผ่านมาของเราค่ะ

Leverage คืออะไร อธิบายแบบไม่ต้องคำนวณอะไรมากมาย